Amazon QuickSight คืออะไร? การแนะนำฟังก์ชันล่าสุดของ AWS

แนะนำ Amazon QuickSight โดยบทความนี้ยกมาจาก “AWS 再入門ブログリレー” ของการบรรยายวันที่ 6 จากแผนกที่ปรึกษาของบริษัทเรา

#Classmethod Thailand

#Thai Language

#AWS

#AWS-Thai

#Amazon QuickSight

ChanchayaChuachanyachan

2023.08.03

この記事は公開されてから1年以上経過しています。情報が古い可能性がありますので、ご注意ください。

บทความนี้เป็นบทความที่นำมาจากภาษาญี่ปุ่น ผู้เขียนคือคุณ Kazuyoshi บริษัท Classmethod, Inc. ในหัวข้อ 『AWS 再入門ブログリレー』 หรือ "การแนะนำฟังก์ชันล่าสุดของ AWS" หากผู้อ่านสนใจอ่านเนื้อหาต้นฉบับสามารถดูได้ที่ลิ้งก์ด้านล่าง โดยเนื้อหาในบทความนี้การอธิบายบางอย่างจะถูกปรับให้เข้าใจง่ายขึ้นทำให้แตกต่างจากต้นฉบับในบางจุด

• AWS再入門ブログリレー Amazon QuickSight編 (Japanese)

blog นี้เขียนเกี่ยวกับหัวข้อใหม่ล่าสุดว่ามีมีอะไรอัปเดตบ้างแล้ว และมีข้อมูลเชิงลึกอย่างละเอียดของบริการ AWS ต่อเนื่องจากบทความที่สมาชิกของเราเคยเขียนมาแล้ว โดยบทความนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มเรียน AWS และยังเหมาะกับผู้ที่ใช้งาน AWS อยู่แล้วสำหรับผู้ที่ต้องการที่จะรื้อฟื้นเรื่อง AWS และต้องการมาทบทวนพื้นฐานกันอีกครั้งว่ามีอะไรอัปเดตบ้าง โดยผู้เขียนหวังว่าหลังจากที่ทุกคนอ่านบทความนี้จบแล้ว ผู้อ่านจะได้ประโยชน์จากการอัปเดตบริการของ AWS

ถ้างั้นเรามาเริ่มเรียนกันเลย ในหัวข้อ Amazon QuickSight จากงานวันที่ 6

QuickSight คือ

บริการสำหรับวิเคราะห์ธุรกิจ (BI) ที่สามารถปรับขนาดได้อัตโนมัติโดยที่เราไม่จำเป็นต้องดูแล

ผู้ดูแลระบบกำหนดชุดข้อมูล (ข้อมูลเฉพาะในแหล่งข้อมูล) จากแหล่งข้อมูลโดยรองรับแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น Athena, Redshift, S3 เป็นต้น
QuickSight สามารถแชร์ หรือเผยแพร่ให้ user ท่านอื่น ๆ ได้ โดยที่ user สามารถใช้ QuickSight วิเคราะห์เรื่องต่าง ๆ ที่ต้องการจากชุดข้อมูลนั้นได้

QuickSight และ SPICE

QuickSight มี database ที่สามารถใช้งานด้วยความเร็วสูงในรูปแบบ memory ที่เรียกว่า SPICE เมื่อเราใช้งาน S3 หรือไฟล์บนคอมพิวเตอร์เพื่อเป็นแหล่งข้อมูล เราสามารถใส่ข้อมูลใน SPICE และ วิเคราะห์ข้อมูลออกมาได้

Athena, Redshift และอื่น ๆ สามารถเรียกใช้ query (SQL) ได้โดยตรงโดยไม่ต้องใช้งานตัว SPICE
นอกจากนี้ยังสามารถนำข้อมูลล่าสุดที่ต้องประมวลผลบ่อยเก็บเป็น SPICE ได้โดยตรง การใช้งานผ่าน SPICE นี้ยังช่วยปรับความเร็วให้มากขึ้น และเชื่อมต่อไปยัง database เพื่อลดภาระการทำงานที่ overload

SPICE เริ่มต้นที่ 10 GB จะสามารถใช้ได้ต่อ 1 User (User ใช้งานได้ฟรี 1 GB) และสามารถนำชุดข้อมูลเดียว (Single-dataset) เข้าใน SPICE ได้โดยที่ขนาดจะต้องไม่เกิน 25 GB รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ตามลิงก์ด้านล่าง

• Managing SPICE memory capacity (English)

• Table and query limits (English)

แหล่งข้อมูลที่รองรับ

ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์

รองรับแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น Athena, Aurora, Redshift สำหรับ host ไว้บน AWS รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ตามลิงก์ด้านล่าง

• Connecting to relational data (Englsih)

File data source

QuickSight รองรับไฟล์ในรูปแบบต่อไปนี้:

• CSV และ TSV , ELF และ CLF , JSON , XLSX

ไฟล์บีบอัดของ zip หรือ gzip ใน S3 สามารถนำเข้าไปยัง QuickSight ได้เลย ส่วนไฟล์ที่บีบอัดด้วยโปรแกรมอื่นจำเป็นต้องแตกไฟล์ก่อนที่จะใส่เข้าไปใน QuickSight AWS รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ตามลิงก์ด้านล่าง
• File data source (English)

แหล่งข้อมูลของ SaaS

รองรับแหล่งข้อมูลของ SaaS เช่น GitHub, JIRA และ อื่น ๆ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ตามลิงก์ด้านล่าง

• Software as a service (SaaS) (Englsih)

เครื่องมือ และราคาตามรุ่น

QuickSight มีให้เลือก 2 รุ่นคือ Standard และ Enterprise ซึ่งเครื่องมือและราคาจะแตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่น Enterprise จะมีเครื่องมือให้ใช้เยอะกว่ารุ่น Standard


เครื่องมือ	Standard Edition	Enterprise Edition
Data lake, เชื่อมต่อกับ business applications	Yes	Yes
วิเคราะห์ข้อมูลง่ายๆ ด้วย AutoGraph	Yes	Yes
Visualize ได้รวดเร็ว & ปรับได้	Yes	Yes
สร้าง Dashboard ที่เข้าถึงได้	Yes	Yes
Single Sign-on ด้วย SAML หรือ OpenID Connect	Yes	Yes
เข้าได้ด้วยโทรศัพท์ & web	Yes	Yes
เจาะลึกข้อมูล & ปรับแต่งได้	Yes	Yes
เปิดใช้งาน audit log ด้วย AWS CloudTrail	Yes	Yes
ผู้อ่าน (READER)	No	Yes
Email report	No	Yes
VPC, เข้าถึงข้อมูลจาก on-premise	No	Yes
การรักษาความปลอดภัยระดับแถว	No	Yes
Spice refresh ทุกๆ 1 ชั่วโมง	No	Yes
การเข้ารหัสข้อมูลขของที่จัดเก็บ SPICE	No	Yes
เชื่อมต่อ Active Directory	No	Yes
การฝังแดชบอร์ด & การสนับสนุน API	No	Yes
การใช้ข้อมูลเชิงลึกของ ML	No	Yes

รุ่น Enterprise

ในรุ่น Enterprise จะแบ่ง User ออกเป็น 2 ประเภทคือ ผู้สร้าง (Author) และผู้อ่าน (Reader) ส่วนราคาก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภท

ผู้สร้าง (Author)

สามารถสร้าง dashboard เพื่อทำ visualization และสร้าง Dataset โดยรุ่น Enterprise นี้ user สามารถใช้ QuickSight ได้เต็มที่ และค่าธรรมเนียมการใช้งานจะแตกต่างกันไปตามระยะเวลาของสัญญา ในราคาด้านล่างจะเป็นราคาต่อ 1 user
• สัญญารายปี … 18 USD
• สัญญารายเดือน… 24 USD

ผู้อ่าน (Reader)

สามารถเรียกดู dashboard และวิเคราะห์ข้อมูลได้ และจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเฉพาะในส่วนใช้งานเท่านั้นของผู้อ่าน (Reader) ซึ่งค่าใช้จ่ายคิดเป็น (Pay-Per-Session) ราคา 0.3 USD ต่อ 1 Session (30 นาทีหลังจาก login) และราคาสูงสุดจะอยู่ที่ 5 USD

สรุป ถ้าไม่ใช้งานก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น หรือ ถ้าใช้เยอะขนาดไหนก็ไม่เกิน 5 USD
ดังนั้น QuickSight เหมาะมากกับ User ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้หรือไม่ใช้ เพราะ User ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องค่าธรรมเนียมที่จะเกิดขึ้น

รายละเอียดรุ่น Enterprise สามารถดูเติมได้ตามด้านล่าง

• New – Pay-per-Session Pricing for Amazon QuickSight, Another Region, and Lots More (English)

รุ่น Standard

รุ่น Standard ไม่สามารถกำหนดค่าธรรมเนียมของผู้อ่าน (Reader) ได้แบบรุ่น Enterprise โดยราคาด้านล่างจะเป็นราคาต่อ 1 user
• สัญญารายปี … 9 USD
• สัญญารายเดือน… 12 USD

โดยทั้งแบบ Standard และ แบบ Enterprise สามารถทดลองใช้งานได้ฟรี (Free Trial) และสำหรับการเริ่มต้นใช้งานรุ่น Enterprise ให้ลงทะเบียน Amazon Quicksight โดยมี author 4 user เพื่อทดลองใช้งานฟรี 30 วัน และหากเลือกเป็น QuickSight Q โดยปกติจะมีค่าธรรมเนียมพื้นฐาน 250 USD ต่อเดือน ในกรณีนี้ผู้ใช้งานจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม และสามารถใช้งานได้ฟรีเป็นเวลา 30 วัน
• Amazon QuickSightの試用期間・無料枠はどこまで適用される？ (Japanese)
• Amazon QuickSight Pricing (Englsih)

สรุป

เนื้อหาทั้งหมดนี้ก็จะเป็นเนื้อหาที่มาจากการบรรยายของวันที่ 6 “Amazon QuickSight คืออะไร? การแนะนำฟังก์ชันล่าสุดของ AWS” และเนื่องจาก QuickSight มีช่วงทดลองใช้งานฟรี (Free Trial) ซึ่งเราสามารถทดลองใช้งาน และลงมือปฎิบัติจริง ๆ ได้แบบฟรี ๆ ทำให้เราเข้าใจเครื่องมือ QuickSight ของ AWS ได้ลึกมากขึ้น